สั่งซื้อสินค้าผ่านทางไลน์คลิ๊ก

ใช้ถุงยางอนามัยจะดีกว่า เพื่อลีกเลี่ยง prank

3 ธันวาคม 2563, 16:31 น.

การใช้เพื่อช่วยเพิ่มเติมความคึกคักให้กับความรัก เป็นสิ่งที่ไม่ผิดอะไร แต่บางครั้งเหตุการณ์แบบ prank หรือ เล่นตลก ก็อาจจะทำให้หมดสนุกได้ ดังนั้นการที่เราจะมีการป้องกันเอาไว้บ้าง นับเป็นสิ่งที่สมควรทำเป็นอย่างยิ่ง การป้องกันในเบื้องต้นที่ดีที่สุดคือ การใช้ถุงยางอนามัยนั่นเอง

 

prank จะไม่เป็นตลกร้าย หากผู้ชายใช้ถุง

การใช้ถุงยางอนามัยเป็นวิธีที่ดี เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ ป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ทุกชนิด รวมทั้งการติดเชื้อเอดส์ด้วย หากหลงเพลินกับการใช้ จนเกิด prank มีท้องโดยไม่ตั้งใจ ติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ มันคงไม่ใช่เรื่องตลกแน่ การศึกษาวิจัยทางการแพทย์สรุปไว้อย่างชัดเจนว่า การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกต้อง ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการป้องกันการตั้งครรภ์และการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

 

ถุงยางอนามัยยุคแรก ๆ จากที่มีการบันทึกไว้ ทำมาจากผ้าทอ ซึ่งไม่สามารถป้องกันการตั้งครรภ์ได้ และไม่สามารถป้องกันเชื้อโรคได้ ต่อมาได้เปลี่ยนการผลิต โดยหันมาใช้ไส้แกะแทน ซึ่งก็ดีขึ้นบ้าง แต่ประสิทธิภาพยังต่ำอยู่ จนถึงยุคสมัยที่นำยางมาใช้ในแวดวงอุตสาหกรรมเมื่อประมาณปี 1930 ถุงยางอนามัยจึงเริ่มเป็นอุปกรณ์ลักษณะแผ่นยาง ที่ทำจากสารสังเคราะห์ของยางและพลาสติก ปัจจุบันมีการผลิตถุงยางอนามัยจากสารโปลียูรีเธนมากขึ้น ถุงยางอนามัยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เรียกว่า Latex condom หรือ Latex rubber condom

 

เพื่อป้องกัน prank ให้ได้ผล ต้องรู้วิธีใช้ถุงยางอนามัยที่ถูกต้อง

การใช้ถุงยางอนามัยอย่างถูกวิธี จะช่วยให้สามารถป้องกันสิ่งที่ไม่คาดฝัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ prank จะไม่มีให้เราต้องปวดหัวแน่ วิธีการใช้ให้ถูกต้องนั้น มีดังนี้

 

1)      ให้ใส่ถุงยางอนามัยเมื่ออวัยวะเพศแข็งตัวเต็มที่เท่านั้น

2)      บีบปลายกะเปาะไล่ลมแล้วสวมลงบนอวัยวะเพศรูดลงมาจนสุด

3)      เมื่อเสร็จการร่วมเพศ ต้องรีบดึงอวัยวะเพศออกขณะยังแข็งตัวอยู่ มิฉะนั้นถุงยางอาจจะหลุดอยู่ในช่องคลอดได้

4)      ต้องดึงออกโดยไม่ให้น้ำอสุจิไหลออกมาอยู่บริเวณอวัยวะเพศหญิง

5)      มีถุงยางอนามัยสำรองเตรียมพร้อมไว้เสมอ

 

แม้เราจะเตรียมพร้อม ด้วยการจัดหาถุงยางอนามัยเอาไว้ป้องกันแล้ว แต่ก็อาจจะมีปัญหาเกิดขึ้นได้ ซึ่งปัญหาที่พบได้บ่อยเกี่ยวกับการใช้ถุงยางอนามัยที่ไม่ถูกต้อง มีดังนี้

 

1)      ใช้สารหล่อลื่นไม่ถูกต้อง ทำให้ถุงยางแตกหรือลื่นหลุด

2)      ไม่ใช้ถุงยางอนามัยใหม่แกะกล่อง

3)      ใช้ถุงยางเพียงครั้งแรกเท่านั้น เมื่อมีเพศสัมพันธ์ต่อไปไม่ได้ใช้ถุงยาง

4)      ใช้ถุงยางอนามัยที่เสื่อมสภาพอย่างเห็นได้ชัด

5)      มึนเมาสุราหรือสารเสพติด จึงตัดสินใจถอดถุงยางทิ้งกลางคัน

6)      แกะถุงยางอนามัยออกมาเล่นก่อนมีเพศสัมพันธ์

7)      ใส่ถุงยางผิดด้านแล้วนำกลับมาใช้ใหม่

8)      สำหรับผู้ที่ไม่ได้ขลิบปลายอวัยวะเพศ ต้องดึงหนังหุ้มรูดให้สุดเสียก่อน

 

นอกจากถุงยางของผู้ชายแล้ว ถุงยางอนามัยของผู้หญิงก็มีด้วย

หลายคนคงจะคุ้นแต่กับถุงยางในแบบของผู้ชาย และอาจจะไม่รู้เลยว่ามีแบบของผู้หญิงด้วย ซึ่งอันที่จริงนั้น ถุงยางอนามัยสตรี (Female condom) มีการผลิตขึ้นมาใช้นานแล้ว โดยผ่านการรับรองจาก FDA หรือ องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา เมื่อปี พ.ศ.2546 ปัจจุบันถุงยางแบบผู้หญิง ยังไม่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เหมือนถุงยางอนามัยผู้ชาย เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่ ยังไม่ค่อยคุ้นเคย และหาซื้อได้ยากพอสมควร แม้ว่าถุงยางจะมีความบางและยืดหยุ่นได้ดี และไม่เกิดการระคายเคืองต่อผู้ใช้ทั้งชายและหญิงก็ตาม

 

ถุงยางอนามัยของผู้หญิง มีไว้ใช้สำหรับสอดเข้าไปภายในช่องคลอดของผู้หญิง ก่อนที่จะเริ่มมีอะไรกัน เพื่อป้องกันไม่ให้อสุจิผ่านเข้าสู่โพรงมดลูก โดยมีหลักการเดียวกับถุงยางอนามัยชาย โดยลักษณะของถุงยางอนามัยสตรีจะมีความยาว 6.5 นิ้ว หรือยาวประมาณ 15 เซนติเมตร ที่ปลายถุงทั้งสองด้านมีห่วงยางหรือวงแหวนยืดหยุ่นสองวง ห่วงจะมีลักษณะแข็งกว่าส่วนอื่น มีไว้เพื่อให้เกิดความกระชับและเพื่อให้คงรูปร่างไว้ได้ในขณะใช้งาน ปลายถุงด้านหนึ่งตันเพื่อใช้สอดเข้าไปในช่องคลอด ส่วนปลายถุงอีกด้านหนึ่งจะเป็นปลายเปิด ยื่นออกมานอกช่องคลอด ภายในถุงยางจะมีน้ำยาหล่อลื่น แต่ไม่มียาฆ่าเชื้ออสุจิ

 

ถุงยางอนามัยผู้หญิง ช่วยป้องกันเหตุการณ์ prank

ถุงยางอนามัยของผู้หญิง มีข้อดีแบบเดียวกับถุงยางอนามัยชาย คือสามารถใช้คุมกำเนิดและช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ต่าง ๆ ได้ เช่น ซิฟิลิส หนองใน เอดส์ เป็นต้น จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงช่วยป้องกัน prank ได้อย่างดี ซึ่งการคุมกำเนิดโดยใช้วิธีนี้จะดีกว่าการคุมกำเนิดด้วยวิธีอื่น ๆ ด้วย เช่น การรับประทานยาเม็ดคุมกำเนิด การฉีดยาคุมกำเนิด การทำหมัน เป็นต้น เพราะสามารถช่วยในเรื่องของการป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ด้วยนั่นเอง

 

ตามหลักแล้ว การใช้ถุงยางอนามัยผู้หญิงอย่างถูกต้องในแบบสมบูรณ์ที่สุด จะมีโอกาสล้มเหลว จนทำให้เกิดการตั้งท้องได้ จะมีประมาณห้าเปอร์เซ็นต์ ซึ่งหมายความว่า จำนวนการตั้งท้องของผู้หญิงที่คุมกำเนิดด้วยการใช้ถุงยางอนามัยผู้หญิง ในจำนวน 100 คน จะมีโอกาสตั้งท้องประมาณ 5 คน

 

ถุงยางอนามัยของผู้หญิง จึงเหมาะกับคนที่ต้องการคุมกำเนิดทั้งแบบชั่วคราว หรือแบบฉุกเฉิน โดยที่เขาไม่ได้กินยาคุมกำเนิดมาก่อน เหมาะกับคนที่แพ้ หรือรู้สึกไวต่อถุงยางอนามัยแบบลาผู้ชาย ผู้หญิงที่ตัวเองมีโรค หรือสามีมีโรค ที่สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ได้ ผู้หญิงที่มีการคุมกำเนิดในรูปแบบอื่นอยู่แล้ว แต่อยากป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

 

วิธีใส่ถุงยางอนามัยในแบบของผู้หญิง อย่างถูกต้อง

ในขั้นตอนแรกของการใส่ถุงยางอนามัยแบบผู้หญิง ขอให้จำไว้ว่าจะต้องใส่ถุงยางเข้าไปในช่องคลอด ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ จะใส่เอาไว้ล่วงหน้าช่วงไหนก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้ จะแตกต่างจากถุงยางอนามัยผู้ชาย เพราะของผู้ชายต้องใส่ในขณะที่อวัยวะเพศกำลังแข็งตัวเต็มที่ ซึ่งการใส่ถุงยางอนามัยของผู้หญิงนั้น มีขั้นตอนการใส่ดังนี้

 

1)      ให้ล้างมือให้สะอาดแล้วแกะถุงยางอนามัยออกจากซอง หลังฉีกซองเสร็จแล้ว ให้ทาสารหล่อลื่นที่ถุงยางอนามัย จะใช้สารหล่อลื่นชนิดใดก็ได้ เพราะถุงยางอนามัยสตรีนั้นทำมาจากสารสังเคราะห์ (Polyurethane) ที่สามารถใช้ร่วมกับสารหล่อลื่นหรือตัวยาที่มีส่วนผสมของน้ำมันได้ โดยจะไม่ทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมคุณภาพ หรือฉีกขาดได้

 

2)      เลือกท่าใส่ที่สบาย โดยอาจจะเป็นท่ายืนแยกขาเล็กน้อย ท่ายืนแบบยกขาหนึ่งข้างโดยวางขาบนเก้าอี้ ท่านั่งยอง ๆ หรือเป็นท่านอนชันเข่าก็ได้ ตามที่ตัวเองจะสะดวก แล้วให้ใช้นิ้วมือด้านที่ถนัดจับห่วงยาง ด้านนอกตรงด้านที่ปลายตัน แล้วบีบห่วงยางเข้าหากัน ให้มีรูปร่างเล็กลง แล้วจึงค่อย ๆ สอดใส่เข้าไปในช่องคลอดให้ลึกพอประมาณ และให้ใช้นิ้วชี้ หรือนิ้วกลาง สอดเข้าไปภายในถุงยาง พร้อมกับดันให้ก้นถุงยางเข้าไปอยู่ในช่องคลอด ให้ลึกที่สุดจนชนปากมดลูก พอเริ่มเข้าที่เข้าทางแล้ว ก็ค่อย ๆ จัดระเบียบให้ถุงยางที่สอดเข้าไปด้านใน ไม่ให้บิดเบี้ยว และจัดให้ขอบห่วงที่อยู่ภายนอก ด้านที่ปลายเปิด ให้ครอบอยู่ที่ปากช่องคลอดพอดี แค่นี้ก็เป็นอันเรียบร้อย

 

3)      ในขั้นตอนการถอดถุงยางอนามัยของผู้หญิง หลังจากการมีอะไรกันเสร็จแล้ว และมีน้ำอสุจิอยู่ในถุง ให้ใช้นิ้วจับห่วงที่อยู่ภายนอก แล้วบิดปากถุงประมาณ 3 - 4 รอบ ให้ปิดสนิท เพื่อให้เชื้ออสุจิอยู่ในถุง แล้วจึงค่อย ๆ ดึงถุงยางออกมาจากช่องคลอด จากนั้นก็ห่อด้วยกระดาษหรือทิชชูให้มิดชิด ก่อนจะนำไปทิ้งขยะ และไม่ควรทิ้งถุงยางอนามัยลงในชักโครก เพราะจะทำให้ชักโครกตันได้                                    

 

ข้อดีของการใช้ถุงยางอนามัยแบบผู้หญิง นอกจากจะใช้ในการคุมกำเนิดหรือป้องกันการตั้งครรภ์ได้ ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ เช่นเดียวกับการใช้ถุงยางอนามัยของผู้ชาย มีความปลอดภัย ไม่มีผลต่อสุขภาพและการเจริญพันธุ์ของผู้หญิง เพราะไม่เกี่ยวข้องกับระดับฮอร์โมนในร่างกาย จึงทำให้ไม่มีผลข้างเคียงจากฮอร์โมน ประจำเดือนก็มาได้ตามปกติ อีกทั้งถุงยางของผู้หญิง ยังมีความทนทานมากกว่าถุงยางอนามัยชาย และสามารถใช้ร่วมกับเจลหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันได้ และที่สำคัญ เมื่อหยุดใช้ ก็สามารถมีลูกได้ทันทีโดยไม่ต้องรอ

ข่าวและบทความ
มีหลายคนที่ต้องประสบกับปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จนกลายเป็นปัญหาในชีวิตคู่ จนทำให้ต้องห...อ่านต่อ
การใช้ยาอาหารเสริมชายในการแก้ปัญหาน้องชายไม่แข็งตัวนั้น ได้รับความนิยมอย่างมากในกลุ่มผู้ที...อ่านต่อ
ปัจจุบันสภาวะแวดล้อม หรือเหตุปัจจัยต่างๆที่อยู่รอบตัว อาจส่งผลกระทบให้กับสภาวะจิตใจและร่าง...อ่านต่อ
เปิดทำการ
สั่งซื้อสินค้า

จันทร์ - อาทิตย์

09.00 - 18.00 น.

อาหารเสริมโอ @copy 2020 Copy right reserve by O-officialthailand.com